
Ethics & Professional Conduct หรือจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ เป็นสิ่งที่สำคัญมากของผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรม ที่ต้องให้ความสำคัญต่อความปลอดภัย สุขอนามัย และสวัสดิภาพของสาธารณชน ตลอดจนทรัพย์สินและสิ่งแวดล้อมอันเป็นสาธารณะด้วย
เรื่องนี้มีความสัมพันธ์โดยตรงกับงาน Process Safety Engineering ที่เพื่อป้องกันอุบัติเหตุอันตราย Prevent Major Accidents เช่นการเกิดเพลิงไหม้ การรั่วไหลของสารเคมี และการระเบิด
ยกยัวอย่าง เช่น ในระหว่างการเข้าประชุมชี้บ่งอันตรายในการทำงาน หรือ Hazard and Operability (HAZOP) เราควรจำเป็นต้องพิจารณาหาระบบป้องกันเพื่อนำความเสี่ยงลงมาในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ถึงแม้ว่าในระหว่างประชุมอาจจะเจอการขอให้ยอมรับเพื่อ save cost ก็ตาม เราไม่ควร compromise เรื่องความปลอดภัย

จากรูป แน่นอนว่าความเสี่ยง ID1, ID5, ID6, ID9 เป็นความเสี่ยงที่สูงและสูงมาก เราจำเป็นที่จะต้องหา Recommendation ให้มี Risk Reduction Measurement เพื่อนำความเสี่ยงเหล่านั้นลงมาในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ As Low As Reasonably Practicable หรือ ALARP
หัวข้ออื่นๆที่เกี่ยวกับ Ethics & Professional Conduct เช่น
- การไม่ประกอบอาชีพโดยทุจริต
- การประกอบอาชีพด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีความรับผิดชอบ และระมัดระวัง
- การประกอบอาชีพตามหลักปฏิบัติและวิชาการ
- การไม่ประกอบวิชาชีพเกินความสามารถ
- การไม่โฆษณาเกินความเป็นจริง
Speaking up against unsafe practices
อีกหนึ่งอย่างที่ Process Safety Engineer ควรมีจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ คือการไม่ปล่อยผ่านถ้าเห็นการทำงานที่ไม่ปลอดภัย ทั้งที่เป็นงานที่เกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องก็ตาม
ตกตัวอย่าง ถ้าก่อนที่จะเริ่มกลับมาเดินเครื่องหลังจากหยุด maintenance หรือจะเป็นการเดินเครื่องครั้งแรก start-up เราจะต้องทำ Pre-Safety Startup Review (PSSR) แล้วเจอว่าอุปกรณ์บางตัวอาจจะยังไม่ได้ calibrate อย่างถูกต้อง ถึงแม้ว่างานเดินเครื่องจะเร่งด่วน แต่เราก็ต้องยืนยันการไม่ยอมให้เริ่มเดินเครื่อง จนกว่าทุกๆระบบที่เกี่ยวข้องมีความพร้อมในทุกๆด้าน
หรือยกตัวอย่างในระหว่างที่เราทำการวิเคราะห์อันตราย ผู้ร่วมประชุมขอให้เราลดความรุนแรง Severity (Downgrade) เพื่อประโยชน์ในการประเมินความเสี่ยง Risk Assessment เราควรปฏิเสธคำขอนั้น เพราะด้วยจรรยายรรณเราควรตัดสินบนความจริง ความถูกต้อง ไม่ใช่เพื่อความสะดวก
Accountability for Decision
อีกมุมหนึ่งที่เกี่ยวกับจรรยาบรรณคือ วิศวกรควรมีความรับรับผิดชอบต่อการตัดสินใจ การนี้เพื่อให้มีความแน่ใจว่าทุกการตัดสินใจทำด้วยความรอบคอบ
ยกตัวอย่าง เมื่อเราต้องตัดสินใจทำ temporary bypass interlock เพื่อการเริ่มเดิมเครื่อง เราควรมั้นใจการตัดสินใจนั้นถูกต้องและรอบด้าน โดยผ่านการทำ Risk Assessment ดูว่านอกจากระบบ interlock ที่ทำการ bypass ออกไปเรายังมีระบบอื่นคอยช่วยเรื่องความปลอดภัยหรือความเสี่ยงยังอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้หรือไม่ ผ่านกระบวนการ Management Of Change (MOC) แล้วมีการบันทึก มีการอนุมัติ พร้อมสื่อสารให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรับทราบทั่วถึงกัน