
Risk Based Inspection หรือ การตรวจสอบตามความเสี่ยงของอุปกรณ์ (RBI) เป็นวิธีการที่ใช้ในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมเพื่อวางแผนและจัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมการตรวจสอบและบำรุงรักษาตามการประเมินความเสี่ยง RBI สามารถช่วยให้บริษัทสามารถปรับปรุงการจัดสรรทรัพยากร Resource Management เพื่อลดความน่าจะเป็นและผลกระทบของการเกิดความล้มเหลวของอุปกรณ์ Probability of Failure ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และประสิทธิภาพ
ดังนั้น RBI เป็นเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบและบำรุงรักษาโดยใช้หลักการ การจัดลำดับความสำคัญของทรัพยากรตามความเสี่ยง
Key components of RBI
- Risk Definition
- Inspection Focus
- Standards and Guidelines
การกำหนดความเสี่ยงใน Risk Based Inspection (RBI) สามารถแบ่งความเสี่ยงมาจากสองปัจจัย:
- ความน่าจะเป็นของการล้มเหลว Likelihood Of Failure (LOF): ความน่าจะเป็นที่อุปกรณ์จะล้มเหลวเนื่องจากกลไกการเสื่อมสภาพ (เช่น การกัดกร่อน, ความเมื่อยล้า) ผลกระทบจากความล้มเหลว
- ผลกระทบจากความล้มเหลว Consequence Of Failure (COF): ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากความล้มเหลว เช่น อันตรายต่อความปลอดภัย ความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม และความสูญเสียทางเศรษฐกิจ


Inspection Focus ในการศึกษา RBI มุ่งเน้นการตรวจสอบไปยังพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงแทนที่จะใช้ความถี่หรือเทคนิคเดียวกันกับอุปกรณ์ทั้งหมด แนวทางที่มุ่งเป้านี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความปลอดภัยของกระบวนการ
Standards and Guidelines ในการศึกษา RBI มักปฏิบัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรมเช่น API 580 (guidance on RBI implementation) และ API 581 (quantitative RBI methodology)
Overview steps of Risk Based Inspection (RBI)
- Data Collection
- รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการออกแบบอุปกรณ์ สภาพการทำงาน ข้อกำหนดวัสดุ ผลการตรวจสอบในอดีต และกลไกความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
- Risk Assessment
- Qualitative RBI หรือ RBI เชิงคุณภาพ ใช้การตัดสินใจของผู้เชี่ยวชาญจากการประชุมและกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าในการจัดอันดับความเสี่ยงเป็นสูง กลาง หรือ ต่ำ
- Quantitative RBI หรือ RBI เชิงปริมาณ ใช้การคำนวณอย่างละเอียดเพื่อกำหนดค่าตัวเลขให้กับ LOF และ COF
- Inspection Planning
- จัดทำแผนการตรวจสอบสำหรับแต่ละรายการอุปกรณ์ โดยระบุ
- เทคนิคการตรวจสอบ (เช่น การทดสอบด้วยคลื่นอัลตราโซนิก, การถ่ายภาพรังสี)
- ช่วงเวลาการตรวจสอบตามระดับความเสี่ยง
- จัดทำแผนการตรวจสอบสำหรับแต่ละรายการอุปกรณ์ โดยระบุ
- Implementation
- ดำเนินการตามแผนการตรวจสอบ ตรวจสอบผลลัพธ์ และแก้ไขปัญหาที่พบ
- Continue monitorig
- ปรับปรุงการวิเคราะห์ความเสี่ยงเป็นประจำเพื่อสะท้อนการเปลี่ยนแปลงในสภาพการดำเนินงาน ผลการตรวจสอบ หรือกลไกการเสื่อมที่อาจจะเปลี่ยนไป
Critical Process Equipment
- Pressure vessel
- Heat Exchanger (H/X)
- Pipeline
- Atmospheric Storage Tank (AST)
- Compressor
- Pump
- Pressure Safety Valve (PSV)
Main 4 Deteriorating Mechanism

กลไกการเสื่อมสภาพหลักสี่ประการในอุปกรณ์อุตสาหกรรม โดยเฉพาะในการวิเคราะห์ Risk Based Inspection (RBI) มักเกี่ยวข้องกับการเสื่อมสภาพของวัสดุและสภาพการปฏิบัติงาน กลไกเหล่านี้อาจนำไปสู่ความล้มเหลวของอุปกรณ์หากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม
- General corrosion จากทั้งภายในและภายนอกและการกัดกร่อน erosion ซึ่งทำให้วัสดุมีความหนาที่น้อยลง เช่น
- CO2 corrosion
- H2S corrosion
- Top Of Line corrosion
- Microbial Induced Corrosion (MIC)
- Crevice corrosion
- Galvanic corrosion
- Stress Corrosion Cracking (SCC) ที่เกิดการกัดกร่อนร่วมกับทางด้านกลศาสตร์ เช่น
- Sulfide Stress Cracking (SSC)
- Hydrogen-Induced Cracking (HIC)
- Mechanical Fatigue ที่เกิดจากกลศาสตร์ที่มีมากหรือนานเกินไป เช่น
- Thermal Fatigue
- Vibration-Induced Fatigue
- Low-Cycle vs. High-Cycle Fatigue
- Metallurgical and Environmental Deterioration of Properties ที่เกิดจากสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น
- Coast Environmental